‘มูลนิธิปวีณาหงสกุล’ จัดเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ในประเทศไทย โดยเป็นองค์กรหนึ่งที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์กรรมอันโหดร้ายต่างๆ ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของความทารุณทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเคราะห์อย่าง การข่มขืน, ถูกทารุณกรรม, กักขังหน่วงเหนี่ยว, ทำร้ายร่างกาย, ถูกหลอกลวงจากขบวนการค้ามนุษย์ในหลากหลายรูปแบบ เช่น การบังคับค้าประเวณีทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ, การนำเด็กหรือผู้สูงอายุมาเร่ร่อนขอทาน, ใช้แรงงานมนุษย์เยี่ยงทาส เป็นต้น ตลอดจนปัญหาภายในครอบครัว รวมทั้งปัญหาอื่นๆ ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในอีกหลากหลายรูปแบบ
‘มูลนิธิปวีณาหงสกุล’ ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก อย่างเต็มความสามารถ
เมื่อย้อนดูสถิติของมูลนิธิปวีณาฯ สามารถพบได้ว่าทางมูลนิธิได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 จวบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน betflik คาสิโน พบผู้ข้อความช่วยเหลือมากกว่าหนึ่งแสนราย และนับวันๆ จำนวนตัวเลขเหล่านี้ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นทวีคูณ มากขึ้นโดยมีผู้เข้าร้องทุกข์วันละ 30-50 ราย ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่… เดินทางมาด้วยตนเอง, Facebook, Website, โทรศัพท์ E – mail, สายด่วน Call Center 1134 และผ่านทางเบอร์โทรศัพท์มือถือ 3 เลขหมาย
จุดมุ่งหมายในการดำเนินการ
โดยจุดมุ่งหมายหลักของมูลนิธิ จะดำเนินการในกรณีที่ได้รับการขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหาย หากแต่ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปช่วยเหลือแล้ว ทาง ‘มูลนิธิปวีณาหงสกุล’ ก็จะไม่เข้าไปดำเนินการซ้ำซ้อน เพราะทางมูลนิธิจะเพียงทำอย่างเดียว ก็คือ จะต้องมาร้องขอให้เข้าไปช่วยเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นกรณี เด็กถูกข่มขืน, ผู้หญิงโดนทารุณกรรม, ถูกละเมิดสิทธิในหลายๆ ด้าน, การใช้แรงงานเด็กผิดกฎหมาย เป็นต้นโดยกรณีต่างๆ เหล่านี้ เมื่อทางมูลนิธิได้รับการร้องทุกข์แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเชิญเจ้าทุกข์เข้ามายังมูลนิธิฯ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ว่าข้อมูลเหล่านี้น่าเชื่อถือ หลังจากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่ของทางมูลนิธิ เข้าไปสืบต้นสายปลายเหตุว่าเป็นจริงตามที่กล่าวหรือไม่ ต่อมาถ้าข้อร้องเรียนมีมูลจริง ! ทาง ‘มูลนิธิปวีณาหงสกุล’ ก็จะประสานงานกับตำรวจ เพื่อดำเนินการต่อไปโดยเป็นการช่วยเหลืองานทางราชการอีกทางหนึ่ง เมื่อช่วยเหลือเด็กออกมาได้แล้ว ก็ต้องดูต่อไปว่า เด็กอยู่กับครอบครัวได้หรือไม่ และถ้าเด็กต้องการฟื้นฟูจิตใจ หรือฝึกอาชีพ ก็จะประสานงานกับกระทรวงแรงงานต่อไป นอกจากนี้ในส่วนของกระบวนการยุติธรรมต่างๆ ทางมูลนิธิก็จะดูแลต่อไปจนสิ้นสุดคดีนั้นๆ
สุดท้ายนี้ เพื่อให้ประชาชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสร้างเครือข่ายอันแข็งแกร่งสู่การแบ่งปัน เพื่อช่วยเหลือเด็กและสตรี ผู้ที่เดือดร้อน ตกทุกข์ได้ยาก ก็สามารถช่วยกันดูแลให้สังคมเกิดความสงบสุขอย่างยั่งยืนได้อีกด้วย